สาระน่ารู้


รัฐบาลผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ งดเว้นค่าธรรมเนียม Re-Entry


วันที่ 11 มีนาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประกาศข่าวดีสำหรับแรงงานข้ามชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ทำงานในประเทศไทย โดยที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 3/2568


มีมติ ผ่อนผันให้แรงงาน 3 สัญชาติ สามารถเดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-Entry Permit) โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อาคารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า มติที่ประชุมดังกล่าวเป็นการ สนับสนุนความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แรงงานข้ามชาติ ที่ต้องการเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวและร่วมงานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้
โดยระบุว่า “แรงงานข้ามชาติเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย การผ่อนผันนี้ถือเป็นการให้สิทธิ์และสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขากลับมาทำงานในไทยด้วยขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น”

กำหนดช่วงเวลาผ่อนผัน: 1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2568


รายละเอียดของมาตรการผ่อนผันมีดังนี้
- แรงงาน กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่มี ใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สามารถเดินทางออกและกลับเข้าไทยได้ โดยไม่ต้องยื่นขอ Re-Entry Permit
- ช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน: 1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2568
- หากเดินทางกลับไทย หลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 จะไม่ได้รับสิทธิผ่อนผัน และต้องดำเนินการขออนุญาตใหม่ตามปกติ

 

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำชับ! อย่าอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้แรงงานข้ามชาติได้รับสิทธิ์อย่างถูกต้อง กรมการจัดหางานจะดำเนินการ ประชาสัมพันธ์แนวทางนี้ให้ทั่วถึง และขอความร่วมมือแรงงาน เดินทางกลับเข้ามาภายในกำหนด เพื่อไม่ให้กระทบต่อสถานะการทำงานในไทย
“เราอยากให้แรงงานทุกคนได้รับโอกาสดี ๆ กลับบ้านไปหาครอบครัวในช่วงสงกรานต์ และกลับมาทำงานได้ตามปกติ ขอให้ทุกคนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ถูกต้อง” นายสมชาย กล่าวปิดท้าย


ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/94265